ซูเปอร์แมนเริ่มบินครั้งแรกในปี 2481 และหลังจากนั้นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็กระตือรือร้นที่จะปรับการผจญภัยของเขาเช่นเดียวกับฮีโร่ที่นับไม่ถ้วนที่เขาได้รับแรงบันดาลใจ ทั้งวิทยุโทรทัศน์อนิเมชั่นภาพยนตร์สารคดีและวิดีโอเกมการ์ตูนคลาสสิกได้คลานออกมาจากหน้าและกลายเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล X-Men ในปี 2001 ได้เริ่มบูมในปัจจุบันโดย Spider-Man เปิดตัวในปีถัดไปและกลายเป็นหนึ่งในภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลหลังจากนั้น
ภาพยนตร์หนังสือการ์ตูนต้องเดินเส้นอย่างละเอียดเล่าเรื่องราวของภาพยนตร์ในขณะที่ยังคงอยู่กับต้นฉบับดั้งเดิมที่เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขา การ์ตูนหลายเรื่องมีช่วงเวลาที่เป็นสัญลักษณ์ซึ่งมีการจัดแจงใหม่สำหรับการดัดแปลงภาพยนตร์ สำหรับรายการนี้เราจะไปดูฉากหนังสือการ์ตูนรูปภาพและบทสนทนาซึ่งทำให้การกระโดดจากหน้าของการ์ตูนไปสู่ความเปล่งประกายของจอเงิน ต่อไปนี้เป็น ฉากหนังสือการ์ตูนการ์ตูนคลาสสิก 15 ฉากที่ถูกสร้างขึ้นใหม่บนแผ่นฟิล์ม
15 Superman รับ Nuked ในแบทแมนวีแห่งส
หนึ่งในนวนิยายกราฟฟิคที่โด่งดังที่สุดที่เคยสร้างมาคือ The Dark Knight Returns เรื่องเล่าสองเรื่องของแฟรงก์มิลเลอร์ในเรื่องของบรูซเวย์นวัย 55 ปีที่ออกมาจากการเกษียณเพื่อช่วยเมืองของเขาอีกครั้ง ในที่สุดสงครามครูเสดก็นำเขาไปสู่ความขัดแย้งโดยตรงกับซูเปอร์แมนผู้ซึ่งในเรื่องนี้ถูกลดน้อยลงจนกลายเป็นหุ่นเชิดของประธานาธิบดีอเมริกันเล็กน้อย (ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นเพื่อดูและลงมือทำมากมายเช่นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐโรนัลด์ เรแกน)
ใน The Dark Knight Returns ก่อนที่เขาจะสามารถต่อสู้กับค้างคาวได้ Superman จะเข้าร่วมกองกำลังโซเวียตในประเทศเกาะอเมริกาใต้แห่ง Corto Maltese โซเวียตโจมตีด้วยขีปนาวุธนิวเคลียร์ "Coldbringer" ซึ่งทำให้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ทั้งหมดในซีกโลกตะวันตกหลุดออกจากชีวิตของมนุษย์เหล็ก เขายังไม่ตาย แต่ร่างกายที่ไร้ชีวิตของเขาลอยอยู่ในอวกาศเหมือนแกลบที่ถูกทำลายจากความยิ่งใหญ่ในอดีต ในทำนองเดียวกันแบทแมนวีซูเปอร์แมน: รุ่งอรุณแห่งความยุติธรรมซูเปอร์แมนเกือบถูกฆ่าด้วยอาวุธขณะต่อสู้กับวันโลกาวินาศ คราวนี้แทนที่จะเป็นรัสเซียโซเวียตเปิดตัวนุก (แค่นิคส์ปกติในเวลานี้เนื่องจากไม่มีหลักฐานของการหยุดชะงักทางอิเล็กทรอนิกส์เหนือ Gotham หรือ Metropolis) ถูกส่งโดยทหารอเมริกันที่มีความสุขและกระตือรือร้นที่จะออกไป วันโลกาวินาศแม้จะเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกา ภาพที่ได้จาก Superman ของ Henry Cavill ที่ลอยอยู่ในอวกาศเหมือนศพซอมบี้กำลังหลอกหลอนอย่างจริงจัง
14 Wolverine in X-Men: Apocalypse
เวอร์ชั่นของฮิวจ์แจ็คแมนวูล์ฟเวอรีนอาจเป็นก้อนหล่อเมื่อเทียบกับคู่หูในหนังสือการ์ตูนที่อบอุ่น แต่เมื่อพูดถึงตัวละครในความโกรธ (และนอก) ความโกรธไม่พูดถึงอาละวาดโกรธแค้นของเขา แจ็คแมนรวบรวมทุกสิ่งที่แฟน ๆ ชื่นชอบเกี่ยวกับตัวละคร
ในขณะที่ X-Men Origins: Wolverine อาจเป็นสิ่งที่น่าจดจำสำหรับแฟน ๆ ของตัวละครและแฟรนไชส์เรื่องราวต้นกำเนิดที่ถูกตัดทอนของเขาปรากฏใน X-Men: Apocalypse ในปี 2016 ในช่วงสั้น ๆ ที่น่าจดจำ แต่จี้วูลเวอรีนหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยผ่านทางกองทหารจำนวนหนึ่งขณะที่สวมอุปกรณ์กลไกไร้สาระผูกติดอยู่กับหัวของเขา มันเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสามารถของฮิวจ์แจ็คแมนในการเข้าถึงธรรมชาติที่ดุร้ายของตัวละครที่ฉากใช้งานได้ดีแม้จะมีหมวกกันน็อคดังกล่าวและกางเกงที่ทำให้เกิดการหัวเราะ นอกจากนี้ไบรอันซิงเกอร์ยังสามารถรวมบริการแฟนไร้ยางอายลงในภาพยนตร์โดยไม่ต้องนำทุกสิ่งมารวมกันเพื่อหยุดการร้องเสียงกรี๊ดซึ่งเป็นความสำเร็จในตัวของมันเอง!
13 จินตภาพของการฆ่าตัวตาย
การฆ่าตัวตายหมู่เหมือนบรรพบุรุษใน DC Cinematic Universe พบกับการต้อนรับแบบโพลาไรซ์ซึ่งผู้ชมทั่วไปเปิดกว้างมากกว่านักวิจารณ์ นักวิจารณ์บ่นเกี่ยวกับเรื่องราวที่ขาดความดแจ่มใสและตัวละครที่ได้รับการพัฒนาน้อยในขณะที่แฟน ๆ ชื่นชอบว่าภาพเหล่านั้นเป็นของแท้จากการ์ตูน
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากหลังและวิชั่นมากมายโดยเฉพาะกับ Harley Quinn และ The Joker โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนึ่งที่โดดเด่นสำหรับการเป็นช่วงเวลาที่มองเห็นที่ไม่ใช่ sequitur; มันอยู่บนหน้าจอเพียงไม่กี่วินาที แต่ฮาร์เลย์และ "พุดดิ้ง" ของเธอยืนอยู่ในท่าที่คุ้นเคยกับแฟน ๆ ของตัวละครที่รู้จักกันมานาน มันเป็นการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบของปกของ Batman: Harley Quinn นัดเดียวพร้อมชุด "jester" คลาสสิกและพื้นหลังสีดำของ Harley มีการโต้แย้งที่จะทำเช่นนั้นเนื่องจากโครงสร้างหนักย้อนหลังของภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้รับช่วงเวลาของการบริการแฟน ๆ และมันเป็นเพียงการบีบอัดในภาพที่เป็นสัญลักษณ์โดยไม่ทำให้พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่อง แต่ที่ถกเถียงกัน เวลา.
12 Scott Pilgrim Vs The Battles โลก
สก็อตต์พิลกริม Vs โลกได้รับการชื่นชมน้อยเมื่อถูกวางตลาดวางระเบิดที่บ็อกซ์ออฟฟิศ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มันก็กลายเป็นลัทธิคลาสสิกและถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่เป็นที่รักที่สุดของเอ็ดการ์ไรท์ ตามนิยายภาพกราฟิกของไบรอันลีโอมัลลีย์หนังสือและภาพยนตร์ติดตามสกอตต์ตัวน้อยที่ไร้จุดหมายในขณะที่เขาเริ่มต้นค้นหาภารกิจเพื่อเอาชนะความรักของราโมนาฟลอรัลด้วยการต่อสู้เพื่อตาย เจ็ดชั่วร้ายของเธอออกมา
การต่อสู้ของตัวเองนั้นเต็มไปด้วยภาพจากการ์ตูนภาพยนตร์และวิดีโอเกมและแผงหนังสือจำนวนมากถูกแปลอย่างสวยงามไปยังหน้าจอ ในขณะที่มีการใช้เสรีภาพและมีบางสิ่งสลับไปมาหรือถูกแทนที่ (บางภาพดึงมาจากเรื่องราวของ O'Malley ที่เขียนขึ้นสำหรับวันหนังสือการ์ตูนฟรี) ฉากต่อสู้หลายเรื่องเป็นจริงกับศิลปะดั้งเดิมซึ่งจับคู่กับเอ็ดการ์ไรท์ สไตล์ภาพ
11 จินตภาพ Kick-Ass
ก่อนที่เขาจะสร้าง Kingsmen: หน่วยสืบราชการลับแมทธิววอห์นกำกับภาพยนตร์ดัดแปลงจากการ์ตูนมาร์คมิลลาร์ชื่อ Kick-Ass ในขณะที่การ์ตูนเป็นโครงสร้างที่โหดเหี้ยมของเทพนิยายซูเปอร์ฮีโร่ศาลเตี้ยที่ตั้งอยู่ในโลกที่มีความเชื่อถากถางภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงรักษาสภาพแวดล้อมเอาไว้ในขณะเดียวกันก็ทำให้ตัวละครฮีโร่มีคุณธรรมและความชอบธรรมมากขึ้นในเป้าหมายและแรงจูงใจ
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายกับเนื้อหาต้นฉบับ แต่ก็มีหลายองค์ประกอบที่ยังคงเหมือนเดิม บางฉากเริ่มต้นด้วยวิธีเดียวกันในทั้งสองรุ่น แต่แตกต่างกันเนื่องจากความแตกต่างในลักษณะเช่นฉากที่อาตมาแก้ไข Kick-Ass อัตตาเดฟ Lizewski พยายามที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขาเพื่อความสนใจของเขาเคธี่ เขามีค่าโดยสารในภาพยนตร์มากกว่าการ์ตูนพูดอย่างน้อยที่สุด หนึ่งในฉากที่โหดร้ายที่สุดในทั้งสองเวอร์ชันคือเมื่อ Kick-Ass ถูกผูกไว้กับเก้าอี้และถูกโจมตีอาศัยอยู่บนอินเทอร์เน็ตแม้ว่าขอบเขตการทรมานของเขาจะรุนแรงน้อยลงเล็กน้อยในภาพยนตร์ แน่นอนว่ามีฉากแรกที่เขาได้รับสูททางไปรษณีย์ ซึ่งแตกต่างจาก Big Daddy, Hit-Girl และ Red Mist ชุดของ Kick-Ass ในภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนกับเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนและฉากของ Kick-Ass ที่ฝึกท่าต่อสู้โง่ ๆ ในกระจกก็คล้ายคลึงกันมากในทั้งสองรุ่น
10 Bane Breaking Batman ด้านหลัง
ภาพยนตร์ไตรภาคของคริสโตเฟอร์โนแลนได้รับการยกย่องอย่างมีนัยสำคัญจากการดัดแปลงหนังสือการ์ตูนของแคปครูเดอร์แคปกาเดอร์ในโลกที่น่าเชื่อถืออย่างเต็มรูปแบบสร้างตัวละครที่สมจริงและสถานการณ์ที่แปลกประหลาด ภาพยนตร์เรื่องที่สามและภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายคือ The Dark Knight Rises ใช้เสรีภาพมากที่สุดกับ Bane ในหนึ่งในกรณีเลวร้ายที่สุดของคนไม่ดีที่ขาวด้านนี้ของเบเนดิกต์คัมแบตช์เป็นข่านสารพิษไม่ได้เป็นของเขาอีกต่อไป แต่เล่นโดยทอมฮาร์ดีผิวขาวอย่างแจ่มแจ้ง ความหายนะไม่ได้ขึ้นอยู่กับสูตรพิษสำหรับความแข็งแกร่งของเขาและเกี่ยวข้องกับ League of Shadows ซึ่งเป็นการพัฒนาดั้งเดิมสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้
อย่างไรก็ตามแง่มุมหนึ่งที่ผู้สร้างภาพยนตร์ได้รับอย่างถูกต้องคือในการต่อสู้ด้วยมือเปล่าครั้งแรกระหว่างฮีโร่กับวายร้าย ในการ์ตูน Bane มีชื่อเสียงในการทำลายแบทแมนกลับมาในแนวเรื่องราว Knightfall และการกระทำนั้นซ้ำในภาพยนตร์ หลังจากเอาชนะเขาในการต่อสู้ Bane ยกแบทแมนขึ้นเหนือหัวของเขาและวางเขาลงบนเข่าของเขาจามอัศวินดำของ Gotham เกือบครึ่ง
9 Russell Crowe Quotes All-Star Superman
ภาพยนตร์เรื่องแรกใน DC Expanded Universe สาธุคุณ Man of Steel เมื่อมันถูกยิงใส่ถังทั้งหมดเป็นมหากาพย์ในพระคัมภีร์เก่าที่ล้าสมัยและผู้สร้างภาพยนตร์ Superman สองคนแรกของ Christopher Reeve พร้อมรุ่นศตวรรษที่ 21 ของการต่อสู้กับนายพลโซ็ดและนายทหารของเขาในเมืองเมโทรโพลิส
ในอีกทางหนึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการวิจารณ์อย่างรุนแรงจากการต่อสู้ฉากที่น่าตื่นเต้น แต่ไม่มีที่สิ้นสุดฉากการต่อสู้รวมถึงการนับร่างกายมนุษย์ที่สูงอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและการยึดครองความไม่พอใจของภาพ 9/11 การถกเถียงกันในช่วง 30 นาทีที่ผ่านมาแมนออฟสตีลได้ทำคะแนนที่สำคัญกับแฟน ๆ ของรัสเซลโครว์ในฐานะ Jor-El รวมถึงแรงบันดาลใจจากซีรีส์การ์ตูน All-Star Superman ของแกรนท์มอร์ริซ มันไม่ใช่คำพูดโดยตรง แต่แฟน ๆ ต่างพากันหลั่งน้ำตาเมื่อพวกเขาได้ยินโจ - เอลถอดความบทสนทนาของหนังสือการ์ตูนคู่พูดว่า "พวกเขาจะสะดุดพวกเขาจะตก แต่ในเวลาพวกเขาจะเข้าร่วมกับคุณในดวงอาทิตย์"
8 Death of Elektra
ภาพยนตร์เรื่อง Daredevil ในปี 2003 ไม่ได้ถูกจดจำด้วยความรักว่าเป็นงานศิลปะชิ้นเยี่ยม แม้แต่ผู้กำกับ Cut pales ที่ยอดเยี่ยมเมื่อเปรียบเทียบกับโคตรอย่าง Spider-Man ของ Sam Raimi หรือภาพยนตร์ X-Men สองเรื่องแรกของไบรอันซิงเกอร์ เบ็นเอฟเฟล็คและเจนนิเฟอร์การ์เนอร์เป็นคนเจ้าเล่ห์มากการบ่อนทำลายมักจะเป็นเรื่องงี่เง่าและการกระทำนั้นถูกทำลายโดยช่วงเวลา CGI ที่ไม่จำเป็น อย่างไรก็ตามภาพบางภาพนั้นน่าทึ่งโดยเฉพาะเมื่อมันถูกยกขึ้นจากการ์ตูนที่โด่งดัง
หลังจากการสู้รบอย่างดุเดือดบนหลังคาของแมนฮัตตัน, Bullseye (Colin Farrell ที่มีความสุขที่สุดของเขา) แทง Elektra (การ์เนอร์) กับหนึ่งในสายเลือดของเธอเองสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นจาก Daredevil # 181 ตำนานเล่าต่อว่าในปี 2525 มีดและดาบไม่ได้รับอนุญาตให้มองเห็นได้ซึ่งยื่นออกมาจากบาดแผลเปิด เพื่อให้ได้สิ่งนี้ในขณะที่ยังคงมีช่วงเวลาที่น่าตกใจและน่าประทับใจแฟรงค์มิลเลอร์ก็แสดงให้เห็นการยื่นออกมาขนาดใหญ่ใต้เสื้ออีเล็คตร้า รายละเอียดนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ในภาพยนตร์แม้ว่ามุมของสายเข้าและออกจากอเลคทน่าสงสารอย่างชัดเจนไม่ตรง
7 แบทแมนกับปืนกลใน BvS
แบทแมน vs ซูเปอร์แมนได้รับความสะเพร่าจากน้ำเสียงที่ไม่เป็นปกติลักษณะของซูเปอร์แมนที่ไม่คงเส้นคงวาจำนวนของสายป่านที่ไม่ได้รับการแก้ไขและความแปลกประหลาดที่น่าดึงดูดใจของลูกอม Jolly Rancher อย่างไรก็ตามด้วยเครดิตแบทแมนของ Ben Affleck ก็สามารถสร้างความรู้สึกที่ไม่เหมือนใครในขณะเดียวกันก็ยังใช้ประโยชน์จากภาพถ่ายจาก The Dark Knight Returns อันเป็นสัญลักษณ์ของแฟรงค์มิลเลอร์ จากการออกแบบของ Batsuits ไปจนถึงการทะเลาะกันอย่างดุเดือดระหว่างแบทแมนและซูเปอร์แมน, 1986 ของ Frank Miller อาจเป็นอิทธิพลที่ใหญ่ที่สุดเพียงอย่างเดียวต่อภาษาภาพของ BvS
บทความนี้ได้ครอบคลุมซูเปอร์แมนที่นำขีปนาวุธนิวเคลียร์ไปที่หน้าและเดินออกไป แต่หนึ่งในการแสดงความเคารพ TDKR ที่ชัดเจนอื่น ๆ มาเมื่อแบทแมนพบว่าตัวเองชี้ปืนกลที่คนรับตัวประกัน ในการ์ตูนตัวร้ายวายร้ายหญิงสาวคนหนึ่งมีปืนพกชี้ไปที่ทารก ในภาพยนตร์ทหารรับจ้างมีเครื่องพ่นสารเคมีกำกับอยู่ที่ Martha Kent ในขณะที่ผลลัพธ์ของความขัดแย้งนั้นแตกต่างกันในทั้งสองเวอร์ชันความตึงเครียดนั้นชัดเจนทั้งในการ์ตูนและภาพยนตร์ เมื่อคนร้ายขู่ว่าจะฆ่าตัวประกันแบทแมนตอบโต้ด้วยกลุ่มคนที่แข็งแกร่งสมบูรณ์แบบ: "ฉันเชื่อคุณ" *ปัง*
6 สิ่งนี้! คือ! สปาร์ตา!
ภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของแซคสไนเดอร์คือภาพยนตร์เรื่อง Dawn of the Dead ของ George Romero ในปี 2004 ในขณะที่การตวัดนั้นได้รับความนิยมอย่างมากในบ็อกซ์ออฟฟิศมันเป็นความพยายามครั้งต่อไปของเขาที่ทำให้เขาเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในฮอลลีวู้ด 300 มีพื้นฐานมาจากนิยายภาพโดยแฟรงก์มิลเลอร์นักเขียนคนเดียวกันที่อยู่เบื้องหลัง The Dark Knight Returns ซึ่งแน่นอนว่าจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อ Snyder's Batman v Superman
300 เป็นหนึ่งในภาพยนตร์หลายเรื่องที่ถ่ายทำใน "ฉากหลังดิจิตอล" ซึ่งใช้ฉากฝึกหัดน้อยที่สุดเลือกที่จะถ่ายทำเกือบทั้งหมดด้วยเทคนิคหน้าจอสีเขียว สิ่งนี้ทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการพักผ่อนหย่อนใจในช่วงเวลาจากการ์ตูนซึ่งแปลความหมาย Battle of Thermopylae ในชีวิตจริงด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาดมากขึ้น ภาพที่โดดเด่นของลีโอนิดาสที่ส่งผู้ส่งสารชาวเปอร์เซียไปสู่หลุมลึกนั้นถูกนำมาจากการ์ตูน ตลอดทั้งภาพยนตร์การใช้สโลว์โมชั่นอย่างไม่มีเหตุผลนั้นใช้เพื่อเลียนแบบความรู้สึกในการมองเห็นแผงหนังสือการ์ตูนในทุกความรุ่งเรือง
5 กัปตันอเมริกา Vs Iron Man
กัปตันอเมริกา: สงครามกลางเมืองส่วนใหญ่เป็นการปรับตัวของ "in-name-only" ของเหตุการณ์สงครามกลางเมืองมหัศจรรย์ในปี 2006 ไม่มีพระราชบัญญัติการลงทะเบียนเหนือมนุษย์ Spider-Man ไม่สลับข้างกันหลาย ๆ ครั้งและไม่มี (ขอบคุณ) ที่ไม่มีหุ่นยนต์ Thor clone ที่ฆ่าโกลิอัท ภาพยนตร์เรื่องนี้มุ่งเน้นไปที่การกลั่นความขัดแย้งกับรอยแยกทางปรัชญาระหว่าง Captain America และ Iron Man
การทะเลาะกันของพวกเขาในที่สุดจะเพิ่มขึ้นไปสู่การต่อสู้ที่ดุเดือดหรือตายและที่นี่เป็นที่ที่ภาพยนตร์ใช้หนึ่งในภาพที่เป็นสัญลักษณ์ที่สุดของการ์ตูน ในภาพยนตร์โทนี่สตาร์กยิงเลเซอร์ออกมาจากมือของเขาและแคปยกโล่ของเขาเพื่อปกป้องตัวเองเลียนแบบปกของสงครามกลางเมืองหมายเลข 7 ซึ่งทั้งสองตัวละครตีท่าทางเหมือนกัน มันเป็นภาพที่เร้าใจที่เต็มไปด้วยน้ำหนักทางอารมณ์และความตื่นเต้นครั้งแรก แม้ว่าเหตุการณ์ที่นำไปสู่การประลองครั้งสุดท้ายก็ไม่สามารถแตกต่างกันมากในการ์ตูนกับภาพยนตร์ แต่พวกเขาทั้งคู่มาถึงปลายทางเดียวกัน
4 ความตายของเกวนสเตซี่ล้มล้างใน Spider-Man 2002
สไปเดอร์แมนปี 2002 ยังคงเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลควบคู่ไปกับซูเปอร์แมนในปี 1978, The Dark Knight ในปี 2008 และ The Avengers ปี 2012 ภาพยนตร์เหล่านี้ล้วนเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่สำคัญซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ลอกเลียนแบบมานับไม่ถ้วนในช่วงหลายปีหลังจากการเปิดตัว
หนึ่งในเสรีภาพของภาพยนตร์ที่กำกับโดยแซมไรมิใช้กับแหล่งข้อมูลคือการข้ามเกี้ยวสเตซี่ของปีเตอร์ปาร์คเกอร์อย่างเกวนสเตซี่โดยเลือกที่จะทำให้แมรี่เจนวัตสันสนใจเรื่องโรแมนติกเป็นหลักตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องแรกได้แสดงความเคารพต่อการ์ตูน The Night Gwen Stacy Died ที่น่าอับอายในการเปิดฉากของภาพยนตร์เรื่องนี้ ในการ์ตูนกรีนก็อบลินหยดเกวนออกจากสะพานบรูคลินและ Spidey ก็ยิงเว็บเพื่อจับเธอ มันติดที่ขาของเธอ แต่การหยุดกะทันหันทำให้คอหัก ต่อมาแมงมุม - ชายเต้นกลาสีเรือออกจากก๊อบลินซึ่งบังเอิญ impales ตัวเองด้วยเครื่องร่อนของตัวเองหลังจากที่แมงมุม - ชายกระโดดออกจากทาง
ในภาพยนตร์เรื่อง 2002 สถานการณ์เปลี่ยนไปบ้างโดย Goblin และ Mary Jane บนสะพาน Queensborough ด้วยรถเคเบิลที่เต็มไปด้วยพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่ถูกโยนลงไปในส่วนผสม แทนที่จะถ่ายทำเว็บกับเพื่อนผู้หญิงของเขาเขาดำน้ำตามหลังเธอแสดงการจับกลางอากาศอันตระการตาตามด้วยการช่วยเหลือผู้กล้าหาญของผู้บริสุทธิ์อื่น ๆ จากที่นี่การต่อสู้กับก็อบลินก็เล่นในทำนองเดียวกันพร้อมกับการฆ่าตัวตายโดยไม่ตั้งใจของวายร้าย
เกวนสเตซี่ตายจริงในปี 2014 Amazing Spider-Man 2 แม้ว่าผู้โจมตีไม่ใช่นอร์แมนออสบอร์น แต่แฮร์รี่ลูกชายของเขาและเขาก็หล่นจากที่สูงในหอนาฬิกาแทนที่จะออกจากสะพาน ไม่ว่าอนาคตของเรื่องราวนั้นจะเป็นเช่นไรมันก็เป็นตัวละครที่ได้รับการรีบูตเพื่อให้เข้ากับ Marvel Cinematic Universe และแฟน ๆ ส่วนใหญ่มีความสุขที่จะทิ้งภาพยนตร์ที่เรียกว่า "Amazing" ไว้ข้างหลังพวกเขา
3 เที่ยวบินของซูเปอร์แมน
ทุกวันนี้ภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่มีงบประมาณ จำกัด มีความมหัศจรรย์ของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่จะนำภาพที่เป็นไปไม่ได้มาสู่หน้าจอเช่น The Incredible Hulk แปรรูป, Spider-Man ที่แกว่งไปรอบ ๆ เมืองหรือสร้างลำดับการเดินทางด้วยกรดที่แปลกประหลาดใน Doctor Strange ย้อนกลับไปในสมัยก่อนนี่ไม่ใช่กรณี
เขาอาจเร็วกว่ากระสุนเร็วและทรงพลังกว่าหัวรถจักร แต่คุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของซูเปอร์แมนคือความสามารถในการบินของเขา หน้าหนังสือการ์ตูนจำนวนนับไม่ถ้วนแสดงให้เห็นถึง Man of Steel ในการบินและภาพนั้นเป็นหัวใจสำคัญของภาพตัวละครในภาพยนตร์ ในปี 1940 สิ่งพิมพ์แห่งสซูเปอร์แมนบินผ่านพลังของอนิเมชั่นที่วาดด้วยมือเชื่อมโยงไปถึงด้านหลังก้อนหินหรือสิ่งที่เคิร์กอัลลีนโผล่ออกมา สำหรับการถ่ายภาพระยะใกล้เคิร์กยืนตรงชี้ไปที่แขนของเขาไปทางด้านบนและกล้องหันไปด้านข้าง
สำหรับภาพยนตร์ซูเปอร์แมนในปี 1978 การได้รับเอฟเฟกต์พิเศษเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้กำกับ Richard Donner และทีมงานของเขา ในความเป็นจริงภาพยนตร์เรื่องนี้วางตลาดด้วยสโลแกนที่ยอดเยี่ยม "คุณจะเชื่อว่าผู้ชายสามารถบินได้" เอฟเฟกต์อาจดูล้าสมัยในสายตาของศตวรรษที่ 21 แต่ภาพของคริสโตเฟอร์รีฟที่บินผ่านกลางอากาศนั้นเป็นเกมเปลี่ยนเกมที่แท้จริงในสมัยนั้น
2 ยาม
ก่อนแซคสไนเดอร์จับมือกับซูเปอร์แมน แต่หลังจากที่เขาเลิก 300 คนเขาได้จัดการดัดแปลงหนังสือการ์ตูนที่มีความทะเยอทะยานมากที่สุดครั้งหนึ่งที่เคยพยายาม Watchmen เขียนโดย Alan Moore และตีพิมพ์ครั้งแรกในปีพ. ศ. 2529 Watchmen ได้รับการพิจารณาว่าไร้ความสามารถมานานแล้วและความพยายามที่จะนำภาพยนตร์ออกมาจากพื้นดินโดยผู้กำกับอย่าง Terry Gilliam และ Darren Aronofsky ล้วนประสบความล้มเหลว
Zack Snyder ใช้ Watchmen พิสูจน์ความแตกแยกเนื่องจากการยึดมั่นอย่างเข้มงวดกับแหล่งข้อมูลของมัน (ขาดปลาหมึกยักษ์มนุษย์ต่างดาวแม้จะมี) ดังนั้นฉากและภาพในนั้นจึงเป็นคำแปลโดยตรงจากนวนิยายกราฟฟิคดั้งเดิม ความภักดีที่แน่วแน่นี้เป็นประโยชน์ต่อภาพยนตร์หรือศักยภาพที่ไม่เหมาะสมขึ้นอยู่กับว่าใครจะถาม ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดฉากด้วยการกระโดดลงมาจากหน้าต่างของนักแสดงตลกและเข้าสู่ถนนด้านล่าง งานศิลปะ Dave Gibbons ดั้งเดิมนั้นถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ลำดับอื่น ๆ นับไม่ถ้วนไปจนถึงความยาวที่ยอดเยี่ยมในการแปลงานศิลปะจากหน้าจอไปที่หน้าจอเช่นที่ซ่อนนาฬิกาของหมอแมนฮัตตันบนดาวอังคารความพยายามในชีวิตของ Ozymandias และเกือบทุกฉากในภาพยนตร์ทั้งหมด
